WHY WE LOVE ARI.

เราตั้งหน้าตั้งตารอมาตั้งแต่รู้ว่า Vick’s น้องคนเล็กของแบรนด์ VICKTEERUT จะมาเปิดในซอยอารีย์ 2 เพราะติดใจคอนเซ็ปท์ Weekend is everyday
เสื้อผ้าของ Vick’s มีดีไซน์เรียบ เก๋ สีโทน neutral และเหมาะกับคนที่มีไลฟ์สไตล์ชอบกิจกรรมเอาท์ดอร์ แต่ในขณะเดียวกันก็เรียบร้อยพอที่จะใส่ไปทำงานยังได้
บอกเลยว่าเป็นแฟนแบรนด์นี้มาตั้งแต่แรกเพราะติดใจแบบที่ใส่ได้เรื่อยๆไม่เบื่อ แถมเนื้อผ้ายังเป็นฝ้ายเนื้อดีหรือลินินที่ใส่สบาย ตอนนี้มีคอลเลคชั่นสำหรับผู้ชายแล้วด้วยค่ะ
มาช้อปส่งท้ายปีกันได้นะคะ Vick’s มีเสื้อผ้าให้คุณได้ใส่เก๋ๆไปฉลองปีใหม่แน่นอนค่ะ

WHY WE LOVE ARI.

แม้ FabCafe Bangkok จะอยู่มาเกือบปีแล้ว แต่หลายคนอาจจะเพียงเคยเห็นและขับรถผ่านไปโดยที่ยังไม่เคยแวะมาดูว่าที่นี่มีอะไรให้เล่นกัน

“What do you fab?” เป็นคำถามที่ท้าทายให้เราลองคิดว่า เราจะทำอะไรได้บ้างจากเครื่อง laser cut และเครื่อง 3D พริ้นท์ที่มีอยู่ (ไม่ต้องกังวลว่าโลว์เทคแล้วจะทำไม่ได้นะคะเพราะที่นี่มีพี่เลี้ยงคอยช่วยตลอดค่ะ)
สิ่งที่นิยมที่สุดน่าจะเป็นการออกแบบลวดลายและใช้เครื่อง laser cut ตัดลายลงบนมาการอง ทำให้เป็นของขวัญสุดพิเศษสำหรับผู้รับ โดยจะทำเป็นชื่อ ข้อความ หรือโลโก้ใดๆก็ได้

ที่ผ่านมา FabCafe ยังมีเวิร์กชอปสนุกๆเช่น ทำถุงผ้าเป็นรูปหน้าคุณพ่อ (ช่วงวันพ่อ) และทำตรายางสำหรับคริสต์มาสและปีใหม่เป็นต้น
สำหรับการทำตรายางยังคงมีถึงวันที่ 27 ธันวาคมนี้ จะทำไว้ใช้เองเป็นลายน่ารักๆสักอัน หรือให้เป็นของขวัญก็ไม่เลวนะคะ FabCafe Bangkok ตั้งอยู่ที่ซอยราชครู ตรงข้ามโรงเรียนสวนบัวค่ะ

WHY WE LOVE ARI

ในโครงการ Aree Garden ตรงข้ามกระทรวงการคลัง มีร้านดอกไม้เล็กๆชื่อ Pennae Floral ซึ่งแน่นขนัดไปด้วยกุหลาบสวยหลากสีจากสวน David Austin ที่อังกฤษ โดยคุณเชอร์รี่(เจ้าของร้าน) เดินทางไปคัดเลือกมาด้วยตัวเอง

แค่ก้าวเข้าไปในร้าน ก็หอมดอกไม้เสียจนอยากจะขนกลับบ้านให้หมด โดยเฉพาะ peony pink rose – กุหลาบสายพันธุ์หอมที่เป็นดาวเด่นของร้าน นอกจากนี้ ยังมีกุหลาบจากเอกวาดอร์ซึ่งดอกใหญ่ ก้านยาว และสวยทน เพราะดอกไม้ที่นี่ไม่มีการอัดน้ำยาใดๆ เป็นร้านที่แวะมาครั้งไหนก็จะหาเรื่องร้องเพลง “ฉันซื้อกุหลาบให้ตัวเอง” อยู่ในใจ แล้วกลับบ้านไปพร้อมกับดอกไม้ช่อโต คือไม่ต้องมีโอกาสพิเศษอะไรก็สร้างความหอมหวานให้บ้านเราได้เสมอใช่ไหมคะ

WHY WE LOVE ARI

Hanazen เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นและบาร์สาเกซึ่งซ่อนอยู่ในอารีย์ซอย 5 (แอบคิดนานเลยว่าจะมาบอกกันดีไหม เพราะเรากลัวว่า ร้านเล็กๆแบบนี้จะฮิตติดอันดับจนเราเองจองโต๊ะไม่ได้) แต่ไหนๆก็มาเจาะลึกย่านอารีย์แล้ว ยอมบอกแฟนคลับโตเกียวไบค์ก็ได้นะคะ : )

Hanazen ตั้งอยู่ในบ้านหลังเล็กสีขาว ตกแต่งดูเรียบง่ายแต่สัมผัสได้ถึงจิตวิญญาณของความเป็นญี่ปุ่น และที่สำคัญ เจ้าของทั้งสองคือคุณเคียวจิและคุณมิยาโกะอยู่ดูแลลูกค้าด้วยตัวเองค่ะ แม้คุณเคียวจิจะปรุงอาหารอยู่ในครัวเป็นหลัก แต่ก็มีบ้างนะคะที่ออกมาต้อนรับลูกค้า

มีเชฟเป็นชาวญี่ปุ่นที่อยู่ในวงการอาหารมานานกว่าสิบปีนี่ไม่ต้องสงสัยเลยค่ะว่ารสชาติอาหารจะอร่อยแค่ไหน จะทานเล่นกับสาเกญี่ปุ่น หรือทานจริงเป็นมื้อเย็น เมนูก็มีหลากหลายให้เลือกค่ะ ทั้งคุณเคียวจิและคุณมิยาโกะพูดไทยเก่งมากค่ะ ไม่ต้องกลัวปัญหาเรื่องการสื่อสาร

ที่จอดรถมีจำกัดมากนะคะ ขี่จักรยานไปทานน่าจะเวิร์กสุดค่ะ #hanazenbangkok

WHY WE LOVE ARI

หากจะพูดถึง Paper Butter & the Burger แล้วไม่เอ่ยถึง The Yard เลยก็คงจะกระไรอยู่เพราะแทบจะเรียกได้ว่า อยู่ในบริเวณรั้วเดียวกัน

เมื่อเดินจากร้านเบอร์เกอร์เข้าไปด้านในจะเห็นประตูเล็กๆซึ่งเปิดเข้าไปสู่ “บ้านญาติ” หลังที่แสนจะอบอุ่นนี้ ซึ่งเจ้าของตั้งใจให้ The Yard พ้องเสียงกับคำว่า “ญาติ” เพราะอยากให้ทุกคนรู้สึกเสมือนว่าเป็นญาติกันจริงๆ

ครั้งแรกที่ได้ไปสัมผัส แทบจะไม่เชื่อสายตาเลยว่าในย่านอารีย์/ราชครู มีพื้นที่สนามเขียวๆแบบนี้อยู่ด้วย แถมบรรยากาศชวนให้เราเอนหลังลงนั่งๆนอนๆอ่านหนังสือพร้อมกับฟังเสียงกีตาร์ที่มีชาวต่างชาติกำลังเล่นอยู่เสียจริง คุณส้ม – เจ้าของ hostel แห่งนี้บอกว่า ส่วนมากแขกที่มาพักจะชิลกันมากและไม่ค่อยอยากออกไปไหน จึงมานั่งพัก นอนพักกันอย่างสบายอารมณ์เช่นนี้

ห้องพักที่นี่มีไม่มาก แต่ตกแต่งได้น่ารักน่าอยู่ แถมชิลซะขนาดนี้ ทำเอาเราอยากจะแพคเสื้อผ้ามานอนค้างกันเล่นๆช่วงสุดสัปดาห์เลยนะคะ #theyardbangkok